วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

Rea velvet




เยริ
- ชื่อจริง : คิม เยริม
- วันเกิด : 5/03/1999
- ตำแหน่ง : มักเน่ 
ร้องสนับสนุน เต้นนำ แร็ปเปอร์
- ระยะเวลาในการฝึก : 2011-2015 ประมาณ 5 ปี
- ผลงาน : คลิปวิดีโอของ SM ROOKIES
- สีประจำตัว : สีม่วง

Red velvet




จอย
- ชื่อจริง : ปาร์ค ซูยอง
- วันเกิด : 3/11/1996
- ส่วนสูง : 167 cm.
- การศึกษา : Seoul  Performing Arts High School
- ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงแนว Trot  เต้น ทำเอคโย่  ตายิ้ม เลียนเสียงตัวการ์ตูน  eugene krabs ใน เรื่อง spongebob 
- ตำแหน่ง : ร้องสนับสนุน แร็ปเปอร์นำ เต้นนำ รอยยิ้ม 
- ระยะเวลาการฝึก : 2012-2014  2ปี
- สีประจำตัว : สีเขียว

Red velvet



เวนดี้
- ชื่อเกาหลี : ซน ซึงฮวาน
- ชื่ออังกฤษ : เวนดี้ ซน
- วันเกิด : 21/02/1994
- ส่วนสูง : 159 cm.
- บ้านเกิด : Richmond Hill, Ontario, Canada
- จบจาก : Richmond Hill High School 
- กรุ๊ปเลือด : O
- ความสามารถพิเศษ : กีตาร์  ร้องเพลง  ร้องเพลงสากล ภาษาอังกฤษ ฟลูต แซกโซโฟน เลียนแบบเสียงคริสติน่า  
- ตำแหน่ง : ร้องเสียงหลัก
- ระยะเวลาการฝึก : 2012-2014  2ปี
- ผลงาน : 
ร้องเพลง ‘Because I love you’ เพลงประกอบละครเรื่อง ‘Mimi’
             ร้องเพลง 'Do you know Jo sung mo MV/Remake' ใน M-net EXO 902014

         คลิปวิดีโอของ SM ROOKIES

- สีประจำตัว : สีฟ้า

Red velvet




ซึลกิ
- ชื่อจริง : คัง ซึลกิ
- วันเกิด : 10/02/1994
- ส่วนสูง : 163 cm.
- การศึกษา : Byungmal Middle School 
                  Seoul Performing Arts High School
- บ้านเกิด : โซล , เกาหลี
- กรุ๊ปเลือด : A
- ความสามารถพิเศษ : กีต้าร์  ภาษาญี่ปุ่น ทำเสียงปิกาจู  เต้น วาดรูป
- ตำแหน่ง : ภาพลักษณ์ คาริสม่า เต้นหลัก แร็ปเปอร์เสริม  ร้องนำ
- ระยะเวลาการฝึก : 2007-2014   7ปี
- ผลงาน : แสดงในมิวสิควิดีโอเพลง 
‘Fantastic’ เพลงของเฮนรี่  
             คลิปวิดีโอของ SM ROOKIES

             รวมแร็ปในเพลงของเฮนรี่เพลง Butterfly


- สีประจำตัว : สีส้

ประวัติ สาวๆ Red Velvet








มาทำความรู้จักสมาชิกในวงกันเถอะ



ไอรีน 
- ชื่อจริง : เบ จูฮยอน
- วันเกิด : 29/03/1991
- ส่วนสูง : 160 cm.
- บ้านเกิด : Daegu , เกาหลี
- กรุ๊ปเลือด : A
- ความสามารถพิเศษ : การแสดง  แร็ป ทำเสียงเลียนแบบโดราเอม่อน ทำเสียงแมวได้
- ตำแหน่ง : หัวหน้าวง  แร็ปเปอร์หลัก ร้องสนับสนุน เต้นนำ
- ระยะเวลาการฝึก : 2009-2014 ประมาณ 5 ปี
- ผลงาน  : แสดงในมิวสิควิดีโอเพลง ’1-4-3′ ของเฮนรี่
                คลิปวิดีโอของ SM ROOKIES

- สีประจำตัว : สีชมพู

ชุดสูท

เสื้อสูท เริ่มปรากฏครั้งแรกในทวีปยุโรป แต่เดิม ทอนบนของเสื้อสูทเป็นเสื้อที่ชาวประมงใส่ตอนออกทะเลไปจับปลา โดยใส่เสื้อที่มีปกกว้างและมีกระดุมน้อยทำให้สะดวก ส่วนของปลายหางนกนางแอ่นที่แหวะออกด้านข้างของเสื้อสูทเป็นรูปแบบเสื้อที่พลรถในยุคกลางของยุโรปสวมใส่กันเพื่อให้ขี้ม้าได้สะดวก ขณะที่ปกแข็งของเสื้อสูทพัฒนามาจากการป้องกันลำคอจากธนูของคู่ต่อสู้ในยุคโบราณ ส่วนกระดุม 3 เม็ดบริเวณแขนเสื้อเล่ากันว่ามีความสัมพันธ์กับนโปเลียน กางเกงสูทเป็นรูปแบบของ “นาวิกโยธิน” แบบยุโรปตะวันตกเพราะเหมาะกับการพับขากางเกงขณะที่กะลาสีทำงาน การแต่งกายในยุคแรกๆค่อยๆพัฒนาตามสังคม จนกลายเป็นเสื้อสูทที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ประวัติน้ำหอม



ประวัติความเป็นมาของน้ำหอม


กระดานสนทนา หมวด อื่นๆโพสท์โดย  I AM THOR




ประวัติความเป็นมาของน้ำหอม

          เชื่อกันว่านํ้าหอมนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว จากหลักฐานภาพวาดจิตรกรรม ฝาผนังตอนหนึ่งที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut ที่เมือง Thebes ในประเทศ Egypt ที่เป็นรูปของหญิงสาวชาวอิยิปต์โบราณกำลังชโลมนํ้าหอมลงบนศรีษะ ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่ามีการใช้นํ้าหอมกันแล้วในยุคนั้น ซึ่งคาดว่านักเดินเรือชาวอิยิปต์ได้ไปนำมาจากดินแดนอื่น นํ้าหอมในสมัยโบราณนั้นจะทำมาจากยางไม้หอม ซึ่งยางไม้หอมแบบนี้จะมีอยู่ที่ Arabia และ Somalia เท่านั้น คำว่า "Perfume" นี้มีรากศัพท์มาจากภาษา ละติน ที่แปลว่า "ควัน" 
           
    
     ในกรีก (Greek) โบราณคนที่ทำนํ้าหอมนั้นจะเป็นผู้หญิง ซึ่งได้ปรับปรุงมรดกการทำนํ้าหอมที่ตกถอดมาจากชาวอียิปต์โบราณให้พัฒนาดีขึ้นไป

           ในช่วงเวลาของจักรวรรดิโรมัน (Roman) การทำนํ้าหอมเขาจะใช้ยางไม้หอมจากต้นไม้จำพวก Boswellia โดยสั่งนำเข้ามาจาก Arabia และได้บวกกับส่วนผสมที่ได้มาจากทะเลจากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนผสมใหม่ที่ใส่ลงไป ในการทำนํ้าหอม ของชาวโรมันในสมัยนั้น เศรษฐีชาวโรมันจะใช้นํ้าหอมตามความพอใจ ชนิดที่เรียกได้ว่าใช้แบบล้างผลาญเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ พวกเศรษฐีเหล่านี้จะเอานํ้าหอมไปพ่น และฉีดตามพื้นและกำแพงบ้านของตัวเอง และนอกจากนี้ยังนำนํ้าหอมไปฉีดให้กับสัตว์เลี้ยงของบรรดาเศรษฐีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สุนัข และ ม้า 

        
   ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของนํ้าหอมแล้วนั้นจะเกิดขึ้นในยุคกลาง (Middle ages) เมื่อชาวอาหรับ (Arabs) ได้คิดค้นพัฒนาเทคนิคในการกลั่นนํ้าหอมได้เป็นผลสำเร็จ 

           ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ของอาณาจักรเปอร์เซีย ได้ทำการปลูกดอกกุหลาบ เพื่อที่จะนำมาสกัดเป็นนํ้าหอม เนื้อที่ที่ใช้ปลูกดอกกุหลาบนี้ใหญ่โตมหาศาลมาก จนถึงกับมีเรื่องเล่าขานกันว่า "กรุง Baghdad" (เมืองหลวงของประเทศอิรักในปัจจุบัน) ในสมัยนั้นได้สมญานามที่เรียกขานกันว่า "City of Fragrances" 

       
อกจากนี้ชาวอาหรับยังได้ค้นพบส่วนผสมตัวใหม่ในการทำนํ้าหอมอีกด้วย นั่นก็คือ สารที่ได้จากตัวชะมด หรือ กลิ่นชะมดนั่นเอง ชาวอาหรับได้นำเจ้ากลิ่นชะมดนี้ไปผสมกับปูนขาว และพวกเขาก็นำปูนขาวที่ได้นี้ไปใช้สร้างสุเหร่า (Mosque) และพระราชวัง ซึ่งก็ทำให้ได้สุเหร่า และพระราชวังที่มีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมือง และนี่คืออีกหนึ่งที่มาจากเรื่องเล่าถึงคำว่า "City of Fragrances" นั่นเอง
           ช่วงสมัยของ Crusaders ได้นำเครื่องหอมจากอาหรับไปให้ชาวยุโรปได้รู้จัก แต่สำหรับก้าวแรกของนํ้าหอม ในยุโรปนั้นเริ่มจริง ๆ ก็ในศตวรรษที่ 16 เมื่อ แคทเธอรีน เดอ เมคิชี่ (Catherine de Medici) มาที่ประเทศ Italy เพื่อที่จะแต่งงานกับอนาคตกษัตริย์ในช่วงนั้น

           จากนั้นนํ้าหอม ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 19 ได้มีนักเคมีได้ทำการสังเคราะห์นํ้าหอมจาก สารเคมีจนได้กลิ่นต่าง ๆ มากมายหลายพันกลิ่น จนกระทั่งนํ้าหอมได้กระจายไปทั่ว จนเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน